เผยแพร่ผลงานวิชาการ
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดภารกิจสำคัญสำหรับมุสลิม ร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบร่วมมือ รายวิชาอิสลามศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนละงูพิทยาคม จังหวัดสตูล
ชื่อผู้ศึกษา นายอาซีซัน เกปัน
สถานศึกษา โรงเรียนละงูพิทยาคม จังหวัดสตูล
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน (3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียน เป็นหน่วยการสุ่มตัวอย่าง (Simple Random Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นเอกสารประกอบการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาอิสลามศึกษา สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบ t-test
ผลการวิจัย พบว่า
1) ประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีค่าเท่ากับ 85.23/84.07
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรียนรู้ มีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนอยู่ในระดับมาก
แบบร่วมมือ รายวิชาอิสลามศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนละงูพิทยาคม จังหวัดสตูล
ชื่อผู้ศึกษา นายอาซีซัน เกปัน
สถานศึกษา โรงเรียนละงูพิทยาคม จังหวัดสตูล
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน (3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียน เป็นหน่วยการสุ่มตัวอย่าง (Simple Random Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นเอกสารประกอบการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาอิสลามศึกษา สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบ t-test
ผลการวิจัย พบว่า
1) ประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีค่าเท่ากับ 85.23/84.07
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรียนรู้ มีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนอยู่ในระดับมาก