รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผู้ศึกษา นายสมนึก พิมพ์นนท์
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80, เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
, คู่มือการใช้งานเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีประสิทธิภาพ 92.07/86.16 แสดงว่าเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีค่าเท่ากับ 0.79 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ความพึงพอใจองนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยรวมมีระดับคะแนนเฉลี่ย 4.63 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.07 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผู้ศึกษา นายสมนึก พิมพ์นนท์
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80, เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
, คู่มือการใช้งานเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีประสิทธิภาพ 92.07/86.16 แสดงว่าเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีค่าเท่ากับ 0.79 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ความพึงพอใจองนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยรวมมีระดับคะแนนเฉลี่ย 4.63 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.07 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด