รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านคุ้ม (ประสารราษฎร์วิทยา) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 41 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1.แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น
มีจำนวน 6 เล่ม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 80.10/82.68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6547 แสดงว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทำให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้น 0.6547 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.47 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้ คือ ร้อยละ 50.00
2. การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ
การอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นกับคะแนนทดสอบก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (P=0.00) เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ โดยนักเรียนที่เรียนจากแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน
3. ความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ผลการศึกษาพบว่า
1.แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น
มีจำนวน 6 เล่ม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 80.10/82.68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6547 แสดงว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทำให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้น 0.6547 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.47 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้ คือ ร้อยละ 50.00
2. การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ
การอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นกับคะแนนทดสอบก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (P=0.00) เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ โดยนักเรียนที่เรียนจากแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน
3. ความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก