ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 5E เรื่องเสียง รายวิชาฟิสิกส์3
ฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน พรชัย ชัยรินทร์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานที่ โรงเรียนบ่อแก้ววิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41
ปีที่ทำการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียงรายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพของ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5โดยพิจารณาความเหมาะสมของชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน และทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนราษฎร์ปรีชาวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 ปีการศึกษา 2558 ทั้ง 3 กลุ่ม คือ นักเรียน จำนวน 3 คน เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมทางด้านภาษา เวลาแล้วปรับปรุงแก้ไข จากนั้นนำมาทดลองใช้กับนักเรียน จำนวน 9 คน โรงเรียนไทรงามพิทยาคม เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และปรับปรุงแก้ไขแล้วนำมาทดลองใช้กับนักเรียน จำนวน 30 คน โรงเรียนลานกระบือวิทยา เพื่อหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 แล้วนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มาใช้กับกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ่อแก้ววิทยา ปีการศึกษา 2558 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง แบบแผนการวิจัยแบบ One Group Pretest – Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง เสียง เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หาประสิทธิภาพจากสูตร E1/E2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าสถิติทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t – test แบบ Dependent)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.42/82.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง เสียง รายวิชาฟิสิกส์ 3 (ว30203) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด