รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80 /80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ที่มีต่อการจัดเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนภูเขียว จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 16 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่รวมเวลาใช้ใน การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จำนวน 8 แผน ๆ ละ 2 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก ระหว่างอยู่ระหว่าง 0.26 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง 0.20 – 0.64 และค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 มีวิธีดำเนินการ 1) สร้าง และหาคุณภาพเครื่องมือ 2) เก็บรวบรวมข้อมูล และ 3) วิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ (Dependent Samples)
ผลการศึกษาในครั้งนี้พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.43/ 84.29
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7665 แสดงว่าหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร นักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.65
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
4. นักเรียนที่ได้รับการสอน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51
โดยสรุป แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเหมาะสมตามเกณฑ์ จึงควรส่งเสริมให้ครูนำไปใช้ทุกๆ ครั้ง ที่มีการเรียนการสอน ขั้นตอนกิจกรรมการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนั้น นักเรียนสามารถ ใช้ภาษาที่อยู่ใกล้ตัว หรือเกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนประสบอยู่ในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมการสอน ทุกขั้นตอนได้ใช้ภาษาได้อย่างแท้จริง มีความคุ้ยเคยความอบอุ่น ความเป็นกันเองกับผู้เรียน
นักเรียนมีความสุขต่อการเรียน และใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้