คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่
ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่
จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางอรัญญา บุญภูงา
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล )
ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การ
ประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธีการสอนสองวิธีคือ กลุ่มที่สอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มที่ใช้วิธีการสอนตามปกติโดยครูเป็นผู้สอน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว วิชา ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จานวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้าคว้าในครั้งนี้ประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอนที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระงานประดิษฐ์ ซึ่งมีค่าอานาจจาแนกรายข้อระหว่าง .02 ถึง .80 และความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 ดาเนินการทดลองโดยใช้แบบแผนการทดลองแบบสองกลุ่ม ด้วยวิธีการสอนที่ต่างกันคือ กลุ่มที่สอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มที่สอนด้วยวิธีปกติโดยครูเป็นผู้สอน สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผู้ศึกษาได้ผลิตออกเป็นสองรูปแบบได้แก่แผ่นบันทึกข้อมูลซีดีรอมและเอกสารเป็นรูปเล่ม เพื่อนักเรียนได้เลือกศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของนักเรียนโดยนักเรียนสามารถนาไปศึกษาเองนอกเวลาเรียนได้
ผลจากการศึกษาพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ใช้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.88/87.38 ค่าดัชนีประสิทธิผล
ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเท่ากับ 0.92
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มนักเรียนสอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
สูงกว่ากลุ่มที่สอนตามปกติโดยครูเป็นผู้สอน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว วิชา ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในระดับมากที่สุด
จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางอรัญญา บุญภูงา
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล )
ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การ
ประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธีการสอนสองวิธีคือ กลุ่มที่สอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มที่ใช้วิธีการสอนตามปกติโดยครูเป็นผู้สอน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว วิชา ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จานวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้าคว้าในครั้งนี้ประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอนที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระงานประดิษฐ์ ซึ่งมีค่าอานาจจาแนกรายข้อระหว่าง .02 ถึง .80 และความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 ดาเนินการทดลองโดยใช้แบบแผนการทดลองแบบสองกลุ่ม ด้วยวิธีการสอนที่ต่างกันคือ กลุ่มที่สอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มที่สอนด้วยวิธีปกติโดยครูเป็นผู้สอน สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผู้ศึกษาได้ผลิตออกเป็นสองรูปแบบได้แก่แผ่นบันทึกข้อมูลซีดีรอมและเอกสารเป็นรูปเล่ม เพื่อนักเรียนได้เลือกศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของนักเรียนโดยนักเรียนสามารถนาไปศึกษาเองนอกเวลาเรียนได้
ผลจากการศึกษาพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ใช้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.88/87.38 ค่าดัชนีประสิทธิผล
ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเท่ากับ 0.92
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มนักเรียนสอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
สูงกว่ากลุ่มที่สอนตามปกติโดยครูเป็นผู้สอน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง งานประดิษฐ์กล่องใส่กระดาษทิชชู่จากพลาสติกลูกฟูกที่ใช้แล้ว วิชา ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในระดับมากที่สุด