รายงาน การพัฒนาผู้เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์
เทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางวีรินทร์ ชูทรัพย์ทวีกุล
ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ชำนาญการ
พื้นที่ศึกษา โรงเรียนโนนจานวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1)เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเรื่องการเขียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโนนจานวิทยา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 2 จำนวน 3 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 41 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโนนจานวิทยา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 14 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเจาะจง(Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ แบบฝึกทักษะภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก รายข้อตั้งแต่ .24 - .59 และ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .80 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับจำนวน 21 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (t) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.78 ความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.75
สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และสถิติที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้แก่ การหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ E1/E2 และการทดสอบค่า t (t - test)
ผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.85 / 88.2
2. แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียน เท่ากับ 0.70
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 โดย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่า t-test เท่ากับ 32.36 ค่าความเชื่อมั่น ( ) ของวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เท่ากับ 0.80
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องการเขียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในอยู่ในระดับพึงพอใจมาก
ค่าความเชื่อมั่น ( ) ของแบบวัดความพึงพอใจ เท่ากับ .75
โดยแบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเหมาะสม ทำให้นักเรียนมีความรู้ในทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ดีขึ้นและนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียน จึงควรสนับสนุนให้ครูนำแบบฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ด้วยการสอนแบบร่วมมือเทคนิค(STAD)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนต่อไป