การพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปี 3
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นายปิยชาติ พร้อมใจ
สถานศึกษา โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา พ.ศ. 2558
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.5 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใช้รูปแบบการวิจัยแบบหนึ่งกลุ่มทดสอบก่อนและหลังเรียน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม อำเภอบ้านศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2558 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ แบบทดสอบย่อยประจำแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ แต่ละชุด จำนวน 10 ชุด และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t – test (Dependent Sampling) ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 82.12/81.60 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ .6441 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ ร้อยละ 64.41 3)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4)นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x = 4.75, S.D. = 0.47)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นายปิยชาติ พร้อมใจ
สถานศึกษา โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา พ.ศ. 2558
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.5 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใช้รูปแบบการวิจัยแบบหนึ่งกลุ่มทดสอบก่อนและหลังเรียน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม อำเภอบ้านศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2558 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ แบบทดสอบย่อยประจำแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ แต่ละชุด จำนวน 10 ชุด และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t – test (Dependent Sampling) ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 82.12/81.60 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ .6441 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ ร้อยละ 64.41 3)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4)นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x = 4.75, S.D. = 0.47)