รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบการจัดกิจกร
กิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรียนชาติตระการวิทยา
ผู้รายงาน นางพิมพ์นารา นุปิง ตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน วิทยฐานะชำนาญการ
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2556
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนชาติตระการวิทยา อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้การประเมินตามรูปแบบจำลองซิปป์ (CIPP model) ตามแนวคิดของสตัฟเฟิลบีม(Stufflebeam) กลุ่มประชากรผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วยครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 50 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นบุคคล ภายนอกโรงเรียน จำนวน 13 คน และนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชาติตระการวิทยา อำเภอ ชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 275 คน ตามลำดับ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วยเป็นแบบสอบถามจำนวน 7 ฉบับ ประกอบด้วย 1) ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความต้องการเร่งด่วนการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ จำนวน 3 ข้อ 2) ฉบับที่ 2 แบบสอบถามประเมินบริบท จำนวน 10 ข้อ 3) ฉบับที่ 3 แบบสอบถามประเมินปัจจัยนำเข้าจำนวน 10 ข้อ 4) ฉบับที่ 4 แบบสอบถามประเมินกระบวนการด้านการบริหารโครงการ จำนวน 20 ข้อ 5) ฉบับที่ 5 แบบสอบถามประเมินกระบวนการดำเนินงานโครงการ จำนวน 10 ข้อ 6) ฉบับที่ 6 แบบสอบถามประเมินความสำเร็จของโครงการสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 30 ข้อ และ 7) ฉบับที่ 7 แบบสอบถามประเมินความสำเร็จและประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ สำหรับนักเรียน จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย(Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการประเมินโครงการ ปรากฏดังนี้
1. ก่อนดำเนินงานตามโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ปีการศึกษา 2555) พบว่า โรงเรียนชาติตระการวิทยาเป็นสถานศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง” สถานศึกษาที่มีความพร้อมทั้งด้านอาคารสถานที่ บุคลากร และงบประมาณ สามารถพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ อีกทั้งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อเป็นต้นแบบและเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงแก่สถานศึกษาและหน่วยงานอื่นๆ โดยความร่วมมือของผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชน
2. การประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความสอดคล้องของโครงการ ความชัดเจน และการเตรียมการเพื่อดำเนินงานโครงการ โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบสอดคล้องยุทธศาสตร์ การจัดการศึกษาของโรงเรียน และ ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนมีความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ กิจกรรมการการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบเน้นการมีส่วนรวมของทุกภาคส่วน การกำหนดหลักการและเหตุผลสอดคล้องกับนโยบาย ของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานต้นสังกัด ส่วนการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ ในโรงเรียน สอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด
3. การประเมินปัจจัยนำเข้า เกี่ยวกับความพร้อมของบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และการได้รับการสนับสนุน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรมชัดเจน มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการ และชุมชน และผู้ปกครองนักเรียนให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการ ส่วนมีวัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีดำเนินโครงการที่ทันสมัยและเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ตามลำดับ
4. การประเมินกระบวนการเกี่ยวกับกระกระบวนการบริหารโครงการตาม โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยกิจกรรมการจัดทำหลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ และมีการบูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ส่วนศึกษาดูงานการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ส่วนกระบวนการในการดำเนินงานตามความคิดเห็นของนักเรียน โดยรวมมีโดยรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน โดยนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมงานเพื่อชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีค่าเฉลี่ยสูงสุด และนักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
5. การประเมินผลผลิต เกี่ยวกับความสำเร็จของโครงการ โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยครูและบุคลากรทางการศึกษารวมถึงผู้เรียนมีการแบ่งปัน สามัคคี ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษามีความเข้าใจมีความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายที่ถูกต้องของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนผู้เรียนเป็นแบบอย่างในการมีวินัยในการใช้จ่าย มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ส่วนความสำเร็จและประโยชน์ที่เข้าร่วมโครงการตามความคิดเห็นของนักเรียนโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เช่นเดียวกัน โดยผู้เรียนได้เรียนรู้และได้ฝึกลงมือปฏิบัติจริงในกิจกรรมงานเพื่อชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้วสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้จริงค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนผู้เรียนสามารถเสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และผู้เรียนประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิตของตนเองและครอบครัว มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
ผลจากการดำเนินโครงการพัฒนาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตลอดทั้งปีการศึกษา 2556 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ครอบคลุมทั้งด้านการบริหารและการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภายในโรงเรียน นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยการบูรณาการ การจัดกิจกรรมด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติต่อไป