LASTEST NEWS

23 ก.ค. 2567กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดสอบพนักงานราชการ 10 อัตรา วุฒิม.3-ม.6 ตั้งแต่บัดนี้-25 กรกฎาคม 2567 23 ก.ค. 2567กรมพลศึกษา เปิดสอบบรรจุรับราชการ วุฒิปวส.ทุกสาขา เงินเดือน 12,650-13,920 บาท สมัครตั้งแต่ 24 ก.ค. - 7 ส.ค.2567 23 ก.ค. 2567โรงเรียนบ้านขะเนจื้อ เปิดสอบครูอัตราจ้าง วิชาเอกปฐมวัย / ประถมศึกษา รับสมัครตั้งแต่บัดนี้-26 กรกฎาคม 2567 23 ก.ค. 2567สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 100 อัตรา - รายงานตัว 1 สิงหาคม 2567 23 ก.ค. 2567ศธ.เล็งแก้หนี้ครูระยะยาววางแผนให้ยื่นกู้สหกรณ์ข้ามจังหวัดได้ 23 ก.ค. 2567(( ลิงก์เว็บไซต์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ ภาค ก และ ภาค ข ตำแหน่งครูผู้ช่วย อาชีวศึกษา ปี 2567 (ภายใน 9 ส.ค.2567) 22 ก.ค. 2567โรงเรียนบ้านระนามพลวง (สมานราษฎร์วิทยาคาร) รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกทั่วไป ค่าตอบแทน 6,000 บาท/เดือน (หกพันบาทถ้วน) ตั้งแต่วันที่ 23-26 ก.ค.2567 22 ก.ค. 2567ห้ามเลี้ยงปลาหมอคางดำ ฝ่าฝืนจำคุก 2 ปี หรือปรับ 2 ล้านบาท 22 ก.ค. 2567ไม่ต้องผ่านภาค ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดสอบพนักงานราชการ 77 อัตรา วุฒิม.6-ปริญญาตรี รับสมัคร ตั้งแต่ 25 ก.ค. - 1 ส.ค.2567 22 ก.ค. 2567บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รับสมัครคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อเข้าปฏิบัติงาน จำนวน 219 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 29 ก.ค.2567

การพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15

usericon

การพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15
ชื่อเรื่อง การพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเฒ่า)
ผู้ศึกษาค้นคว้า    นางสาวสุนันทา พร้าวตะคุ

บทคัดย่อ

    การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเฒ่า) ปีการศึกษา 2555 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู นักเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ให้ทุกคนมีส่วนร่วม ในการพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนร่วมกัน 2) ศึกษาความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถและความคิดเห็นของครูที่ปรึกษาก่อนการพัฒนาและหลังการพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ 3) ศึกษาสัมฤทธิ์ผลของการพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเฒ่า) ปีการศึกษา 2555
    กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า จำนวน 40 คน เลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ตามบทบาทหน้าที่ในการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ 1) แบบประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ความคิดเห็นของครูที่ปรึกษา ที่มีต่อระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 2) แบบสัมภาษณ์นักเรียน ครู ผู้ปกครอง โดยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ศึกษาความคิดเห็นครูที่ปรึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง ที่มีต่อระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สถิติที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและใช้การบรรยายเชิงพรรณาในการวิเคราะห์คุณภาพ
    ผลการศึกษาพบว่า
    1. โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเฒ่า) มีคู่มือในการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งทำให้รูปแบบการพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นแนวทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    2. ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และความคิดเห็นของครูที่ปรึกษาที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเฒ่า) ปีการศึกษา 2555
2.1 ความรู้ ความเข้าใจของครูที่ปรึกษา ในการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.54 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48
2.2 ด้านความสามารถของครูที่ปรึกษาในการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของครูที่ปรึกษาก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.72 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.98
2.3 ด้านความคิดเห็นของครูที่ปรึกษาที่มีต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.86 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.21
    3. สัมฤทธิ์ผลของการพัฒนาคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยองค์ประกอบ 5 ด้าน 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ครูที่ปรึกษาจัดทำระเบียนสะสม มีการบันทึกและรายงานผลครบทุกชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ 100 2) การคัดกรองนักเรียน โดยใช้แบบประเมิน SDQ แยกเป็น กลุ่มปกติ คิดเป็นร้อยละ 80.53 กลุ่มเสี่ยง คิดเป็นร้อยละ 9.12 และกลุ่มมีปัญหา คิดเป็นร้อยละ 10.35 3) นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาและมีคุณภาพดี คิดเป็นร้อยละ 80.35 4) การป้องกันแก้ไขปัญหานักเรียนได้รับการพัฒนาช่วยเหลือตรงตามสภาพปัญหา คิดเป็นร้อยละ 86.44 ส่วนร้อยละ 13.56 ที่โรงเรียนยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เป็นนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบางสาระการเรียนรู้ต่ำซึ่งทางโรงเรียนกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และ 5) การส่งต่อนักเรียนที่มีพฤติกรรมยากต่อการช่วยเหลือในชั้นเรียน ส่งต่อไปยังงานแนะแนวของโรงเรียนตามลำดับ ทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 100.00 จึงไม่มีการส่งต่อนักเรียนไปยังผู้เชี่ยวชาญภายนอก
29 เม.ย. 2557 เวลา 21:58 น. 0 1,048
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^