เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษาและพัฒนา นายกวีภัทร ชื่นใจ
สถานที่ติดต่อ โรงเรียนบ้านโนนม่วงท่าพลับพลา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
ปีที่ศึกษาและพัฒนา 2555
บทคัดย่อ
การใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเป็นสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน สามารถแก้ปัญหาทางด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ในวิชาภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น 3) เพื่อศึกษาความพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนบ้านโนนม่วงท่าพลับพลา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 จำนวน 21 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า 1) แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบย่อยหลังเรียนบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 6 เล่ม แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก เล่มละ 10 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาและพัฒนาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1 / E2) เท่ากับ 84.84/82.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (E.I.) มีค่าเท่ากับ 0.67 แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 68
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.73
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้และพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ
เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษาและพัฒนา นายกวีภัทร ชื่นใจ
สถานที่ติดต่อ โรงเรียนบ้านโนนม่วงท่าพลับพลา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
ปีที่ศึกษาและพัฒนา 2555
บทคัดย่อ
การใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเป็นสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน สามารถแก้ปัญหาทางด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ในวิชาภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น 3) เพื่อศึกษาความพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนบ้านโนนม่วงท่าพลับพลา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 จำนวน 21 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า 1) แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบย่อยหลังเรียนบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 6 เล่ม แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก เล่มละ 10 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาและพัฒนาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1 / E2) เท่ากับ 84.84/82.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (E.I.) มีค่าเท่ากับ 0.67 แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 68
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Free time and entertainment กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.73