รายงานการพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา(พลศึกษา) เ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการเล่นกีฬาแชร์บอล
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา(พลศึกษา)ทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอลของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนางามวิทยา ปีการศึกษา
2556 จำนวน 24 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฝึกทักษะจำนวน 8 ชุด ได้แก่ แบบฝึกประวัติแชร์บอล แบบฝึกท่าบริหารร่างกายเพื่อการเล่นกีฬาแชร์บอล แบบฝึกการสร้างความคุ้นเคยกับลูกแชร์บอล แบบฝึกเคลื่อนไหวเบื้องต้น แบบฝึกการรับส่ง ลูกแชร์บอล แบบฝึกการยิงประตู แบบฝึกกติกาการแข่งขันและสัญญาณมือในการตัดสินกีฬา แชร์บอล แบบฝึกการฝึกทักษะการเล่นทีม แบบวัดทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการฝึก แบบทดสอบความรู้ความสามารถกีฬาแชร์บอลใช้ประเมินความรู้ แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียนตามแบบฝึกจำนวน 8 ชุด ใช้ประเมินทักษะของนักเรียนก่อนและหลังเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
1. การพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล พบว่า นักเรียนมีค่าเฉลี่ยคะแนนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.88 อยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.54 มีพัฒนาการความหน้าค่าเฉลี่ย เท่ากับ 13.08 คะแนน คิดเป็น ร้อยละ 46.63
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา
(พลศึกษา)ทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล ของนักเรียน คะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01