รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียน
ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางปราณี บุญศักดิ์
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านหัวช้าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3
ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนการใช้และหลังการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหัวช้าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จำนวน 16 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือการวิจัยที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค่าความยากง่าย 0.26-0.65 ค่าอำนาจจำแนก 0.20 - 0.70 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.87 และ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสม 4.44 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีค่าความสอดคล้อง 0.80 ถึง 1 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และค่า t-test (Dependent Samples) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 88.13/87.71
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.8133 หรือคิดเป็นร้อpละ 81.33
3. ผลเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนการใช้และหลังการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ โดยรวมมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.17 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกข้อ
ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางปราณี บุญศักดิ์
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านหัวช้าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3
ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนการใช้และหลังการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหัวช้าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จำนวน 16 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือการวิจัยที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค่าความยากง่าย 0.26-0.65 ค่าอำนาจจำแนก 0.20 - 0.70 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.87 และ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสม 4.44 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีค่าความสอดคล้อง 0.80 ถึง 1 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และค่า t-test (Dependent Samples) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 88.13/87.71
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.8133 หรือคิดเป็นร้อpละ 81.33
3. ผลเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนการใช้และหลังการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ โดยรวมมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.17 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกข้อ
[/blockquote]