รู้แล้วปฏิบัติ! 5 ข้อน่ารู้ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ให้ถูกกาลเทศะ!
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
พิธีสำคัญที่มาคู่กับวันสงกรานต์เสมอก็คือ พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ หลายคนรู้จักกันดีว่าพิธีนี้คือการนำน้ำหอมๆ มารดใส่ในมือของผู้ใหญ่ที่เราเคารพ แต่เดี๋ยวก่อน…เคยรู้กันมั้ยว่าจริงๆ แล้วพิธีน่ารักๆ แบบนี้มีความเป็นมาอย่างไร และวิธีการรดน้ำผู้ใหญ่ที่ถูกต้องตามหลัก ต้องทำอย่างไรบ้าง?ถ้าอยากรู้ ตามมาทางนี้ เนื่องในวันผู้สูงอายุและวันปีใหม่ไทย ไทยรัฐออนไลน์ ขออินกับเทศกาลนี้กันหน่อย เราจะพาไปเจาะลึกกับ 5 ข้อน่ารู้ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีรดน้ำดำหัวให้มากขึ้น สงกรานต์ปีนี้ก็อย่าลืมเอาไปใช้กันด้วยล่ะ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ล้อมวงเข้ามาชมกันเลย
1. ทำไมต้อง 'รดน้ำ' และ 'ดำหัว'
สำหรับความเป็นมาของ พิธีรดน้ำดำหัว นั้น ว่ากันว่า เป็นพิธีโบราณมาจากทางเหนือ โดยคำว่า 'รดน้ำดำหัว' เป็นคำพูดของชาวเหนือที่จะไปรดน้ำขอขมาและขอพรจากผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งในอดีตนั้นการรดน้ำคือ การอาบน้ำจริงๆ ส่วนการดำหัวก็คือการสระผมให้ผู้ใหญ่นั่นเอง โดยจะใช้น้ำส้มป่อยหรือน้ำมะกรูดในการสระผม (คำว่า ดำหัว เป็นภาษาล้านนาดั้งเดิม หมายถึงการสระผม)
ต่อมาพิธีดังกล่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค นอกจากจะทำเพื่อขอขมาผู้ใหญ่แล้ว ยังถือเป็นการชำระสะสางสิ่งอัปมงคลออกไปจากชีวิตเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ เข้ามาในวันปีใหม่ จวบจนถึงวันนี้การรดน้ำดำหัวกลายเป็นประเพณีที่ดีงามอย่างหนึ่ง ที่ประชาชนชาวไทยปฏิบัติสืบทอดต่อๆ กันมาในวันสงกรานต์ทุกปี
2. ความหมายที่แฝงอยู่ในพิธี
การรดน้ำดำหัวไม่ได้เป็นเพียงการชำระสิ่งไม่ดีออกไปเท่านั้น แต่ยังมีความหมายดีๆ แฝงอยู่ นั่นคือ เป็นการแสดงความเคารพต่อบิดา มารดา ผู้ใหญ่ หรือผู้มีพระคุณ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของผู้น้อย และเพื่อขอโทษขออภัยในปีที่ผ่านมา ที่ผู้น้อยอาจจะเคยล่วงเกินผู้ใหญ่ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะ ต่อหน้าหรือว่าลับหลังก็ตาม รวมถึงเป็นการขอพรจากผู้อาวุโสเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองตลอดปีอีกด้วย
ชาวต่างชาติก็รู้จักพิธีนี้กันมากขึ้น
ข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งของพิธีนี้ก็คือ ช่วยสานความสัมพันธ์ให้กับคนในครอบครัวได้ด้วย เพราะวันสงกรานต์เป็นช่วงเวลาเดียวของปี ที่คนไทยนิยมเดินทางกลับบ้านเกิดไปรวมตัวกัน หรือที่เรียกว่า วันรวมญาติ เพื่อเฉลิมฉลองวันปีใหม่ไทยร่วมกัน ปู่ย่าตายายก็จะได้เห็นหน้าหลานๆ ให้ชื่นใจ ส่วนเด็กๆ เองก็จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเรื่องดีต่อเด็ก เพราะมีข้อมูลทางวิชาการระบุว่า การให้เด็กอยู่ใกล้ชิดกับคนแก่จะช่วยฝึกให้เด็กมีความนอบน้อม และอ่อนโยนขึ้นได้
สานสัมพันธ์คนในครอบครัวและคนในชุมชน
4. วิธีดำหัวฉบับโบราณ vs สมัยใหม่
สำหรับวิธีการรดน้ำดำหัว ขอพาไปทำความรู้จักกับวิธีแบบโบราณกันก่อน ซึ่งเป็นพิธีกรรมในแบบของสงกรานต์ล้านนา โดยสามารถทำได้ 3 แบบ คือ แบบที่หนึ่ง ดำหัวตนเอง : เป็นพิธีเสกน้ำส้มป่อยด้วยคำที่เป็นสิริมงคล เช่น "สัพพทุกขา สัพพภยา สัพพโรคาวินาสันตุ" แล้วใช้น้ำส้มป่อยลูบศีรษะ เพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไป
แบบที่สอง ดำหัวผู้น้อย เช่น ภรรยา บุตร หลาน : เป็นพิธีกรรมต่อเนื่องจากแบบแรก คือ ใช้น้ำส้มป่อยลูบศีรษะภรรยา บุตร หลาน หลังจากดำหัวตนเอง หรือการที่ตนเองรับน้ำส้มป่อย (แบบที่สาม) มาลูบศีรษะตนเองเสร็จแล้วสลัดใส่ศีรษะ หรือลูบศีรษะผู้ที่มาดำหัวตนเอง
แบบที่สาม ดำหัวผู้ใหญ่ เช่น บิดา มารดา ครู อาจารย์ พระเถระ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น : กรณีนี้อาจไปดำหัวด้วยตนเอง บางครั้งอาจพาญาติพี่น้องไปเป็นกลุ่ม หรือไปเป็นคณะ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือของชุมชน
รดน้ำดำหัวพระภิกษุสงฆ์
5. ต้องเตรียมอะไรบ้าง
เตรียมน้ำอบน้ำปรุง หรือน้ำหอม มาผสมในน้ำสะอาด
สิ่งที่ต้องเตรียมไปในการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ได้แก่ น้ำอบไทย น้ำหอม หรือน้ำส้มป่อย เพื่อนำไปผสมกับน้ำที่จะนำไปรดน้ำผู้ใหญ่ ข้อต่อมาคือเตรียมดอกมะลิ ดอกกุหลาบ หรือดอกไม้อื่นๆ ที่ปลูกอยู่ในบ้านก็ได้ ถัดมาต้องเตรียมขันเงินหรือขันทองเหลือง พานข้าวตอก ดอกไม้ และธูปเทียน ข้อสุดท้าย คือ เตรียมผ้าตัดเสื้อ ผ้านุ่ง ผ้าห่มผืนใหม่ หรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมอบให้แก่ผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ไทย
ใส่ดอกไม้กลิ่นหอมลงไปด้วยเพื่อความสดชื่น
ภาพ: thailanologies, leecraker, bangkokknights, afrims, jakeneedham, goasean
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 13 เมษายน 2558