การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ในรายวิชา อ 32101 ภาษาอังกฤษ 3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1
ผู้วิจัย นางสาวภาวินี ทิพวรรณ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) แก้ไขปัญหานักเรียนไม่สามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ 2) ฝึกการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ การวิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะนักเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย ที่เรียนในรายวิชา อ32101 ภาษาอังกฤษ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Moments in the Past ให้มีประสิทธิภาพ E1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง ส่งผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย จำนวน 32 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 32 คน โดยคัดเลือกจากนักเรียนที่มีปัญหาและอยากเรียนเพิ่มเติมในเรื่องของการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ โดยอาศัยจากการสังเกตของคุณครูประจำวิชา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 5 ชุด และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด โดยวิเคราะห์ผลการวิจัยจากค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ (E1/E2) และค่าความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ 3 รหัสวิชา อ32101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.87/80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ แสดงว่าแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหานักเรียนไม่สามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้ผู้วิจัยได้พิจารณาคะแนนจากผลของแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ 3 รหัสวิชา อ32101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 5 ชุด พบว่านักเรียนสามารถทำคะแนนได้ค่าเฉลี่ยในแต่ละชุดมากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป ทั้งนี้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past เป็นแบบฝึกที่ให้นักเรียนฝึกทำ ย้ำคิด ฝึกซ้ำๆ จากง่ายไปหายาก ทำให้นักเรียนจดจำ เข้าใจ และสามารถออกเสียงคำศัพท์ต่างๆได้ถูกต้อง และจากการทำแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนบ่งชี้ให้เห็นว่านักเรียนพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษในระดับดีมากทุกๆข้อ
ผู้วิจัย นางสาวภาวินี ทิพวรรณ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) แก้ไขปัญหานักเรียนไม่สามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ 2) ฝึกการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ การวิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะนักเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย ที่เรียนในรายวิชา อ32101 ภาษาอังกฤษ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Moments in the Past ให้มีประสิทธิภาพ E1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง ส่งผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย จำนวน 32 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 32 คน โดยคัดเลือกจากนักเรียนที่มีปัญหาและอยากเรียนเพิ่มเติมในเรื่องของการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ โดยอาศัยจากการสังเกตของคุณครูประจำวิชา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 5 ชุด และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด โดยวิเคราะห์ผลการวิจัยจากค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ (E1/E2) และค่าความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ 3 รหัสวิชา อ32101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม จังหวัดเชียงราย มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.87/80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ แสดงว่าแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหานักเรียนไม่สามารถอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้ผู้วิจัยได้พิจารณาคะแนนจากผลของแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ 3 รหัสวิชา อ32101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 5 ชุด พบว่านักเรียนสามารถทำคะแนนได้ค่าเฉลี่ยในแต่ละชุดมากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป ทั้งนี้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Cause & Effect และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Moments in the Past เป็นแบบฝึกที่ให้นักเรียนฝึกทำ ย้ำคิด ฝึกซ้ำๆ จากง่ายไปหายาก ทำให้นักเรียนจดจำ เข้าใจ และสามารถออกเสียงคำศัพท์ต่างๆได้ถูกต้อง และจากการทำแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนบ่งชี้ให้เห็นว่านักเรียนพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษในระดับดีมากทุกๆข้อ